หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 1 มีนาคม พ.ศ. 2553

สิ่งนี้เราเรียกมันว่า รากขมขื่น

การเยียวยารักษาด้านจิตใจจากพระเจ้า

บทความนี้เป็นคำพยานของคนที่เคยถูกละเมิดทางเพศ จากญาติสนิทของเธอ ขณะเป็นเด็ก ทำให้ชีวิตของเธอ เกิดความขมขื่น และความแค้นฝังใจนานถึง 30 ปี

ข้าพเจ้าได้เก็บความลับอันเจ็บปวดในชีวิตไว้เป็นเวลาเกือบ 30 กว่าปีที่ข้าพเจ้าได้ถูกทำร้ายทางร่างกายและจิตใจ อย่างบอบช้ำ ตั้งแต่วัยเด็กมันเป็นรากอันขมขื่นที่สุดในชีวิตที่มีลมหายใจอยู่ ข้าพเจ้าอายที่จะเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้พ่อแม่หรือใครๆได้ฟัง

จนกระทั่งกลางปี2552ที่ผ่านมาข้าพเจ้าได้รับเอกสารงานแปลเป็นชุดๆจากเพื่อนสนิทที่มักนำแจกให้คนโน้นคนนี้เป็นประจำเมื่อเห็นหน้าเธอ ข้าพเจ้าก็รับไว้อย่างขัดไม่ได้และกลัวเพื่อนเสียกำลังใจ แต่ไม่ได้สนใจอ่านเอาไปวางไว้เฉยๆบนโต๊ะหนังสือ เพราะตัวเองก็มีงานเยอะมากทั้งงานประจำและหน้าที่ต้องรับผิดชอบลูกๆที่อยู่ในวัยแรกรุ่นทั้ง 2คน

ภาพแห่งความฝันร้ายที่รุมทำร้ายชีวิตของข้าพเจ้าไม่เคยเลือนจากความทรงจำแม้แต่วันเดียว เมื่อข้าพเจ้าอยู่ชั้น ประถมศึกษาปีที่ 3 ถูกอาซึ่งอยู่ในช่วงวัยรุ่น กระทำชำเรา โดยที่ไม่มีใครรู้ ครั้งแล้วครั้งเล่าทุกครั้งที่เขามีโอกาสแต่เรื่องนี้ไม่มีผู้ใหญ่รู้ ชีวิตวัยเด็กของข้าพเจ้าหวาดผวา ไม่กล้าอยู่คนเดียวกลัวคิดหลายๆครั้งว่าจะเล่าให้ญาติผู้ใหญ่ฟัง แต่ก็กลัวไม่มีใครเชื่อ มันทำให้หัวใจของข้าพเจ้าถูกความชั่วร้ายครอบงำ อย่างชนิดที่เปิดเผยให้ใครรู้ไม่ได้ทั้งที่ชีวิตภายนอกของข้าพเจ้า เป็นเด็กดี เรียนหนังสือเก่ง จบในมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียง มีหน้าที่การงานดี ได้แต่งงานกับสามีที่ดีรักดูแลเอาใจใส่ครอบครัวเป็นอย่างดีจนใครๆอิจฉา ในความเพียบพร้อมที่ข้าพเจ้าได้รับ แต่ความเลวร้ายของอาข้าพเจ้าไม่ได้หยุดแค่นั้น เขาตามทำร้ายจิตใจข้าพเจ้าตลอด พยายามที่จะมาขอมีความสัมพันธ์ทางเพศกับข้าพเจ้าอีก เมื่อสามีข้าพเจ้ากลับจากที่ทำงานช้าหรือค่ำ ทั้งๆที่อาแต่งงานมีลูกโตๆเป็นหนุ่มเป็นสาวแล้ว ความเครียดและความเจ็บปวดทั้งหมดนี้ทำให้ข้าพเจ้าแทบนอนไม่หลับในทุกคืน มันช่างรบกวนจิตใจเป็นอย่างมาก ข้าพเจ้าต้องการระบายเล่าให้ทุกคนฟังแต่ก็อายไม่กล้า กลัวคนซ้ำเติม แผลในใจ ลึกถึงวิญญาณ ไม่สามารถรักษาได้ เคยไปปรึกษาจิตแพทย์ชั่วโมงเป็นพันกว่าบาทที่กรุงเทพแต่ก็ไม่สามารถลบภาพนั้นได้ ข้าพเจ้าอยากฆ่ามัน อยากทำลายมัน อยากให้ลูกสาวลูกชายของมันเป็นอย่างที่มันทำร้ายข้าพเจ้า จนข้าพเจ้าต้องอาศัยยาแก้เครียด

เมื่อข้าพเจ้ามองหน้าสามี และลูกๆ ครอบครัวที่แสนอบอุ่นของเราทำให้ข้าพเจ้ายิ่งละอายใจอย่างมาก บางทีคิดฆ่าตัวตายบ่อยๆ หนามนี้ทิ่มแทงชีวิตมาก เพราะในสายตาทุกคนมองเห็นภายนอกว่าอาเป็นคนดี ชอบช่วยเหลือผู้อื่น มีน้ำใจ สุภาพบุรุษ เอื้อเฟื้อเพื่อแผ่ แต่ทั้งหมดที่ข้าพเจ้าสัมผัส อยู่ในคราบของผีร้ายชัด ๆอยากจะกระชากหน้ากากจอมปลอมของมันออก ข้าพเจ้าอยากตะโกนให้โลกรู้ให้คนชั่วคนนี้มันตายไปอย่างทรมานแสนสาหัส ความเกลียดชังและความแค้นฝังรากในชีวิตของข้าพเจ้า

ข้าพเจ้าสามารถหนุนใจผู้อื่น เข้าใจผู้อื่น สามารถแก้ปัญหาให้กับผู้อื่นได้เป็นอย่างดี สมกับอาชีพของข้าพเจ้าที่ต้องเสียสละเป็นแบบอย่างที่ดีต่อสังคม เป็นแม่พิมพ์ของชาติ แต่น่าเสียใจมากที่ข้าพเจ้ามีรอยตราบาปที่ด่างพร้อยจากคนมักมากในกาม ทำร้ายแต่วัยเยาว์

ต้นปี2553 ข้าพเจ้าได้เจอเพื่อนสนิท เธอก็นำเอกสารมาแจกคราวนี้ทำเป็นเล่มบางๆ เรียงเป็นชุด มาให้ข้าพเจ้าอีกครั้ง ข้าพเจ้าถามเธอว่าไม่ทุกข์ใจอะไรบ้างหรอ (ถามอย่างหมั่นไส้) เห็นพูดคุย สนุกสนาน ( ทั้งๆลูกชายของเธอเป็นมะเร็ง ) เธอก็ตอบอย่างยิ้มแย้ม ว่าสบายดีตามอัตภาพ ทุกคนสบายดี หนี้สินยังคงเดิมแต่ก็จะหมดในเร็วๆนี้ (เธอตอบตามสไตล์ของเธอข้าพเจ้าเคยเห็นเธอเป็นทุกข์ ร้องไห้ หาเงินรักษาลูกที่ป่วยเป็นมะเร็งในเม็ดเลือดขาว แต่เธอก็หัวเราะฟันฝ่าเดนตายในวิกฤติของเธอมาได้ทุกครั้ง ทุกๆครั้งที่ข้าพเจ้าพบเธอเธอมักมีเรื่องเล่า คำหนุนใจ พยาน จากชีวิตครอบครัวของเธอให้ฟังทุกครั้ง และเธอมองวิกฤติสิ่งเลวร้ายที่เกิดขึ้นในชีวิตเธอ เป็นโอกาสเสมอ เธอบอกว่าชีวิตถ้าคิดลบมันก็ยิ่งติดลบ แต่ถ้าคิดบวกมันยิ่งเพิ่มขึ้น ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตทำให้เราได้รับการท้าทายให้คิดบวกคิดดีในทุกๆเรื่อง แม้จะเจ็บปวดก็ตามที เธอพูดสมกับที่ได้รับรางวัลผู้หญิงคิดบวกจริงๆ เธอบอกว่า พระเจ้าช่วยเธอทุกๆเรื่อง ไม่ว่าเล็กหรือใหญ่ไม่ว่าเป็นหรือตาย ทุกลมหายใจเข้าออกของเธอมีพระเจ้า ฟังแล้วOVERจริง ๆ เธอบอกว่า เราไม่สามารถเดินทางเข้าไปเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นในชีวิตในอดีตได้ แต่การมีพระเจ้าทำให้เธอสามารถเลือกใช้ชีวิตในปัจจุบันอย่างถูกต้อง และเป็นจริง พระเจ้าจะช่วยดูแลรักษาเยียวยา ชีวิตของเรา ตั้งแต่ภายในวิญญาณ จิตใจ อารมณ์ ร่างกาย บาดแผลที่มนุษย์รักษาไม่หายแต่พระเจ้าสามารถรักษาได้อย่างอัศจรรย์ โดยการอธิษฐานของเราทูลขออ้อนวอนต่อพระองค์ ) คำพูดของเธอทำให้ข้าพเจ้าคิดถึงตนเอง เรื่องราวของตนเองที่ซ่อนเร้นอยู่ในกระแสเลือด

ในที่สุดข้าพเจ้าได้ตัดสินใจเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นในชีวิตของข้าพเจ้าให้เธอฟัง เรากอดกันร้องให้ เธอนำข้าพเจ้าอธิษฐาน สารภาพบาป ตัดรากขมขื่น ขับไล่ผูกมัดวิญญาณชั่วในภาพอดีตที่หลอกหลอนมาเป็นเวลา 30 กว่าปี ตัดสายสัมพันธ์ความชั่วร้ายออกจากคนชั่ว และขอพระเจ้ายกโทษให้ตนเอง และยกโทษให้อาที่ใจมักมากในกาม ขอให้พระเจ้าปิดทางชั่ว ทั้งหมด เธอ แนะนำเอกสารที่เพื่อนของเธอแปลและให้ข้าพเจ้าอ่านใคร่ควรกับพระเจ้า และแนะนำข้าพเจ้าเข้าไปอ่านในwww.vimonsin.com ซึ่งทำให้ข้าพเจ้าได้รับพระพรเป็นอย่างมาก

ปัจจุบัน ข้าพเจ้าไม่ได้พึ่งยานอนหลับ ยาคลายเครียดอีกแล้ว เพราะเมื่อมีสิ่งชั่วร้ายเข้ามาสะกิดจิตใจ ข้าพเจ้าจะรีบอธิษฐานทันทีขอการทรงนำและการปกป้องจากพระเจ้าทันที และสิ่งเหล่านี้ก็จางหายไป พระเยซูคือแพทย์ที่วิเศษรู้วิธีรักษาเราทุกอย่างเพียงแต่เรามองข้ามพระองค์ไป ระยะเวลาไม่ถึงสองเดือน ชีวิตของข้าพเจ้ามีความสุขสงบ ไม่หวาดระแวงไม่กลัว ไม่ต้องปั้นหน้าหลอกลวงตนเอง ทำให้ชีวิตของข้าพเจ้ามองโลกอย่างสวยงาม และข้าพเจ้าไม่อายไม่กลัวอีกต่อไป และ อนุญาตให้เพื่อนสนิทได้ถ่ายทอดเรื่องราวลงในที่นี้เพื่ออยากประกาศให้ทุกคนรู้ว่าพระเจ้าทำได้จริงๆ พระเจ้าไม่ใช่แพทย์ที่โกหกหรือเลี้ยงไข้แต่พระองค์รักษาให้หายขาดแบบชนิดขุดรากถอนโคน ข้าพเจ้าไม่อยากให้เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นกับใครเพราะมันเจ็บปวดเหมือนคนที่ตายทั้งเป็นเหมือนที่ข้าพเจ้าได้เผชิญมา (โปรดรัก และดูแลลูกหลานของท่านด้วยความระมัดระวัง)

ข้าพเจ้าฝากขอบคุณเพื่อนสนิทและอาจารย์แอนนา เวลล์ ที่ได้สละเวลาแปล รวมทำเวป และทุ่มเทเพื่องานของพระเจ้า ที่หนุนใจข้าพเจ้าเป็นอย่างมาก กระดาษแต่ละแผ่นที่เพื่อนสนิทเคยให้ไว้ ข้าพเจ้านำมาอ่าน ความจริงพระเจ้าต้องการปลดปล่อยข้าพเจ้าตั้งแต่ปีที่ผ่านมาแต่ข้าพเจ้าไม่ยอมหยิบขึ้นมาอ่าน แต่พระเจ้ายังรักข้าพเจ้าโดยส่งเพื่อนสนิทมาหาอีกหลายๆ รอบ น่าละอายซึ่งข้าพเจ้าก็เป็นคริสเตียนเหมือนกันตั้งแต่เกิด แต่ไม่รู้เคล็ดลับที่พระเจ้าปลดปล่อย เลยคิดถึงพระคัมภีร์ที่เพื่อนมักบอกเสมอว่าอย่าหลงในถิ่นทุรกันดารนาน และ แม้เราเดินในหุบเขาเงามัจจุราชแต่พระเจ้าอุ้มเราไว้

...ชีวิตใหม่ที่พระเจ้าให้กับข้าพเจ้าช่างมีความสุขมากเกินกว่าจะบรรยายเป็นภาษาไดๆ ได้ จึงอยากท้าทายให้ทุกคนเดินมาหาพระเจ้าและบอกเรื่องราวของเราไว้กับพระเจ้า พระองค์เปลี่ยนให้เราได้

โดย ผู้ที่ได้รับพระคุณความรักจากพระเจ้าพระบิดา

**หมายเหตุ บทความนี้ได้รับความกรุณาจาก คุณ แอนนา เวล์ ผู้รับใช้พระเจ้าที่ไม่ได้ทำงานรับเงินเดือนเต็มเวลา แต่เธอก็เป็นอีกคนหนึ่งที่มีความรักและความสามารถ (ของประทาน) จากพระเจ้าในการรับใช้ โดยไม่ได้มีใครจ้าง หรือมีใครดูแลเรื่องค่าใช้จ่ายในการรับใช้คริสตจักร-- ขอชื่นชมและขอบคุณท่านมา ณ ที่นี่*---
............................................................................
-ความคิดเห็น---

เรื่องที่นำเสนอในบทความนี้ เป็นสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างมากมายในสังคมที่ คนถูกชักนำให้หลงผิด
ดำเนินชีวิตตามสัญชาตญาณ ของความเป็นมนุษย์ธรรมดา 

ในความเป็นจริงแล้วพระเจ้าได้สร้างมนุษย์ให้มีจิตวิญญาณ ความคิด และ จิตใจที่สอาด ผ่องแผ้ว แต่มนุษย์คู่แรกได้หลงผิด หลงเชื่อคำหลอกลวงของวิญญาณร้าย ที่เราเรียกมันว่า ซาตาน  ทำให้มนุษย์ถูกตัดขาดจากพระเจ้า ขาดจากพระศิริ และไม่สามารถมีชีวิตอยู่โดยสามารถปฏิบัติตามกฎศีลธรรมที่พระเจ้าในใส่ไว้ในจิตใจได้เนื่องจาก ความผิดบาป  ดังนั้นนี่คือเหตุผลที่พระเยซูคริสต์ได้ลงมาเกิดเป็นมนุษย์ พระเยซูสามารถดำเนินชีวิตอย่างขาวสอาด และมีชัยชนะเหนือความต้องการของเนื้อหนัง
พระเยซูมีอะไรที่พิเศษกว่ามนุษย์ทั่วไป คือ

พระเยซูประกาศตนว่ามาจากพระเจ้า และเป็นพระเจ้า: พระเยซูมิได้เกิดจากการที่คนยกเอาคุณงามความดีหรือคำสอนของคน และถูกยกเป็นพระเจ้า แต่พระเยซูบอกว่า เราคือพระผู้ช่วยให้รอดของชาวโลก
มีชัยเหนือความอยากอาหาร:  พระเยซูอดน้ำและอาหารเป็นเวลา 40 วันในทะเลทราย

การกำเนิดอย่างอัศจรรย์: พระเยซูไม่ได้เกิดจากการมีเพศสัมพันธ์ของมนุษย์ชายและหญิงตามธรรมชาติ แต่เกิดจากหญิงพรหมจารี
ชัยชนะเหนือผีและวิญญาณ: ตลอดเวลา 3 ปีที่พระเยซูออกไปประกาศเรื่องการมาของแผ่นดินของพระเจ้า หรือเรียกกันง่ายๆ ว่า การปกครองของพระเจ้าด้านความคิด ความเชื่อและจิตวิญญาณ พระเยซูจะขับผีออกจากคนต่างๆ มากมาย

ชัยชนะเหนือความป่วยไข้: พระเยซูทำการอัศจรรย์ได้ด้วยฤทธิเดชของพระเจ้า ที่เรียกว่าพระวิญญาณบริสุทธิที่ประทับอยู่ในตัวของพระเยซู พระองค์ไปที่ใดก็รักษาโรคภัยไข้เจ็บของประชาชนที่ได้รับความทุกข์ยากจากโรคภัยต่างๆ  และพระเยซูยังสามารถเรียกคนตายให้ฟื้นขึ้นมาได้

ชัยชนะเหนือความตาย:  นอกจากพระเยซูจะเรียกคนตายให้ฟื้นได้แล้ว  ศัตรูทางความคิด ความเชื่อของพระองค์ที่เรียกว่า พวกอาจารย์ทางศาสนา (ธรรมาจารย์) ได้ใส่ความและปั้นพยานเท็จปรักปรำ และส่งให้ผู้ปกครองประเทศอิสราเอลในขณะนั้น คือ ตัวแทนของจักรวรรดิ์ โรมัน ให้ตัดสินประหารชีวิตพระองค์ด้วยการเอาไปแขวนไว้บนไม้กางเขน โดยการตอกตะปูที่ข้อมือทั้งสองข้าง  ที่หลังเท้าทั้งสองข้าง และเอาหนามแหลมสานเป็นมงกุญสวมไว้ที่ศรีษะของพระองค์  เมื่อพระเยซูคริสต์สิ้นชีวิตแล้ว พวกสาวกของพระองค์ได้ขอนำพระศพไปฝังไว้ในอุโมงค์ในวันศุกร์  พวกศัตรูของพระองค์เกรงว่าจะมีคนมาลักพระศพของพระองค์จึงสั่งให้ทหาร 1 หมู่ไปเฝ้าปากทางเข้าอุโมงค์ไว้ แต่ในวันที่ 3 คือเช้าวันอาทิตย์ (ชาวคริสต์เรียกว่า วันอิสเตอร์) เกิดแผ่นดินไหวสั้นสท้าน  ก้อนหินก้อนใหญ่ที่ปิดปากอุโมงค์ของพระเยซูได้กลิ้งออก เมื่อสาวกของพระเยซูเข้าไปดูในอุโมงค์ก็ไม่พบพระเยซู  ต่อมาพระเยซูได้ปรากฎตัวในที่ต่างๆ ต่อสาวกของพระองค์หลายๆ คน บางคนคิดว่าพระเยซูเป็นผี แต่พระเยซูก็ให้พวกเขาจับดูเนื้อหนังของพระองค์  และมีครั้งหนึ่งพระเยซูได้กินปลาปิ้งกับสาวกของพระองค์ด้วย

พระเยซูคือพระเจ้าที่จะเดินทางจากสวรรค์มาตัดสินความผิดบาปของมนุษย์ทุกคน:
หลังจากการฟื้นคืนชีพและได้ปรากฎตัวแก่สาวก และประชาชนผู้ติดตามพระองค์ เป็นเวลา 40 วัน ก่อนที่พระเยซูจะจากไป พระเยซูได้สั่งพวกสาวกของพระองค์ว่า
(จากพระธรรมมัทธิว บทที่ 28 ข้อ 18-20)

"พระเยซูจึงเสด็จเข้ามาใกล้แล้วตรัสกับเขาว่า “ฤทธานุภาพทั้งสิ้นในสวรรค์ก็ดี ในแผ่นดินโลกก็ดีทรงมอบไว้แก่เราแล้ว เหตุฉะนั้นเจ้าทั้งหลายจงออกไปสั่งสอนชนทุกชาติ ให้เป็นสาวกของเรา ให้รับบัพติศมาในพระนามแห่งพระบิดา พระบุตรและพระวิญญาณบริสุทธิ์ สอนเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดซึ่งเราได้สั่งพวกเจ้าไว้ นี่แหละเราจะอยู่กับเจ้าทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค”

มีพระองค์ใดบ้างที่สัญญาว่าจะอยู่กับพวกสาวกตลอดไปจนกว่าจะสิ้นยุค (ถึงวาระสุดท้ายของโลก)

พระเยซูเป็นพระเจ้าที่ได้ตายไปแต่กลับเป็นขึ้นมาใหม่และยังเป็นอยู่
พระเยซูยังคงทำการอัศจรรย์ผ่านผู้ติดตามพระองค์ ด้วยการรักษาโรคอย่างอัศจรรย์ ให้คริสเตียนขับผี
วางมือบนคนป่วย การรักษาโรคยังเกิดขึ้นทุกวัน หากท่านสนใจลองค้นหาดูในอินเตอร์เนท หรือดูรายการทีวีดาวเทียมผ่านรายการทีวีต่างๆ อาทิ GodTV หรือ TBN ฯลฯ ท่านก็จะพบความจริงว่า คริสเตียนที่แท้จริงไม่ใช่ศาสนาคริสต์ แต่เป็นการที่เราได้รู้จักพระเจ้าองค์เที่ยงแท้ ที่เราไม่ต้องพก ไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องเช่า ไม่ต้องเสียเงินซื้อพระ หรือเครื่องรางใดๆ หรือต้องซื้อเครื่องบูชาใดๆ เพื่อทำให้พระเยซูพอใจเพื่อพระองค์จะได้อวยพรท่าน ไม่ต้องทำพิธีกรรมต่างๆ เพื่อจะได้มีชีวิตทีดี
พระเยซูประกาศว่า มนุษย์ไม่สามารถทำความดีให้ครบถ้วนเพื่อจะได้ไปสวรรค์ 
พระเยซูประกาศว่า พระองค์มาจากพระเจ้า มาเพื่อช่วยมนุษย์ให้รอดจากบาป ความทุกข์ และโรคภัย

พระเยซูประกาศว่า มนุษย์ไม่สามารถแสวงหาพระเจ้าด้วยการใช้ทรัพย์สมบัติแห่งโลก

สาวกพระเยซู ประกาศว่า เราไม่สามารถซื้อความรอดบาป หรือทำบุญมากๆ  หรือทำความดีใดๆ
เพื่อจะได้ไปสวรรค์แต่เราจะได้รับการยกบาปด้วยความเชื่อในพระนามของพระเยซูเท่านั้น



วิธีการที่ท่านจะได้รับพระเยซูเป็นพระเจ้า

1. ท่านรู้สึกตัวถึงพฤติกรรมบาป หรือการทำบาปของท่าน และยอมรับว่าในจิตใจลึกๆ ของท่าน ท่านได้เคยทำบาปมากมาย ท่านตกอยู่ในอำนาจของความบาป มีบางอย่างคอยชักจูงในท่านทำบาปอยู่เรื่อยๆ

2. ท่านถ่อมตัวลง แสดงออกด้วยการคุกเข่าลงและยอมพูดสารภาพความบาปต่อพระเยซูคริสต์ และขอการอภัยบาป

3. ออกปากพูดว่า พระเยซูคริสต์คือพระเยซูคริสต์คือองค์พระเจ้าที่เที่ยงแท้ และมีชีวิตอยู่

4. ออกปากเชิญพระวิญญาณของพระเจ้าที่ทำให้พระเยซูคริสต์ฟื้นขึ้นจากความตาย เข้ามาอยู่ในชีวิต ในร่างกายในวิญญาณ เป็นพระผู้ช่วยเหลือในทุกๆ อย่างในชีวิต

5. ละเว้นความชั่วทั้งปวง และเริ่มศึกษาชีวิตและคำสอนของพระเยซูจากพระคริสต์ธรรมคัมภีร์

6. หากท่านมีโอกาสก็ให้เลือกโบสถ์ที่จะไป เพราะในปัจจุบันมีโบสถ์คริสต์จำนวนมากที่เป็นเพียงศาสนสถาน ตั้งขึ้นเพื่อหลอกเอาเงินของคน หรือชักจูงให้คนเข้าไปอยู่ในศาสนาคริสต์แต่พวกเขามีพฤติกรรมไม่ต่างไปจากคนทำบาปทั่วๆ ไป หรือชักจูงให้ทำพิธีกรรมต่างๆ ที่เหมือนกับการบูชารูปเคารพทั่วไป

ขอพระเจ้าเปิดใจท่านให้เข้าใจข้อความแห่งการเปลี่ยนแปลงชีวิตเหล่านี้ เทอญ

คำอธิษฐานต้อนรับพระเยซู (คำพูดที่พูดด้วยความจริงใจและมีสัจจะต่อพระเจ้า)

เพราะพระเยซูคริสต์เป็นพระเจ้าที่ไม่ได้สถิตย์อยู่ในวัตถุ สิ่งของ ภูเขา แม่น้ำ เนินสูง ต้นไม้ หรือสิ่งก่อสร้างทางศาสนา หรือเป็นเหมือนผี หรือเทพต่างๆ ที่สถิตอยุ่ในเทวสถานที่มือมนุษย์ได้สร้างไว้ พระองค์สถิตทั่วไปหมด พระองค์จะได้ยินคำอธิษฐานของคนบาปที่ต้องการให้พระองค์ช่วยเหลืออย่างจริงใจ
ทุกคนสามารถอธิษฐานอย่างง่ายๆ ตามแบบนี้


พระเจ้าแห่งฟ้าสวรรค์ ข้าพระองค์ขอเรียกพระองค์ว่า พระบิดาแห่งฟ้าสวรรค์ ข้าพเจ้าเป็นคนบาป ตกอยู่ในนิสัยบาป เคยทำบาป ไม่สามารถช่วยตัวเองให้พ้นจากโทษแห่งการทำบาปได้ วันนี้รู้ตัวว่าเป็นคนบาป ต้องการการยกโทษบาป ขออาศัยพระบารมีของพระเยซูที่ได้ตายเพื่อคนบาปบนไม้กางเขน ขอฤทธิเดชจากเลือดอันศักดิ์สิทธิของพระองค์ชำระล้างความบาปของข้าฯทั้งสิ้น ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ข้าฯ ขอเป็นลูกของพระเจ้า
ขอเชิญพระเยซูคริสต์โดยพระวิญญาณบริสุทธิ์ของพระองค์ โปรดเข้าสถิตมาอยู่ในชีวิต ในความคิด
ในจิตใจ จิตวิญญาณของข้า สอน เตือน นำ และดลบันดาลให้ชีวิตของข้าฯ ปลอดภัยจากอำนาจของซาตาน และความบาป ให้ข้าฯ ปลอดภัยอยู่ในพระองค์จนถึงชีวิตนิรันดร์ ข้าฯ ขอกล่าวคำอธิษฐานนี้ด้วยความสัจจริง ในพระนามของพระเยซูคริสต์ อาเมน

3 ความคิดเห็น:

  1. ดีมากเลยครับ ขอบคุณพระเจ้า ฟอนต์เล็กไปนิดอ่ะครับ

    ตอบลบ
  2. ดีมากครับ จาก
    www.knowday.blogspot.com
    เข้าใจวันทุกมุมโลก

    ตอบลบ
  3. ดีมากครับ จาก
    www.knowday.blogspot.com
    เข้าใจวันทุกมุมโลก

    ตอบลบ

ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ