หน้าเว็บ

วันจันทร์ที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554

มหาตมะคานธีเป็นเกย์

ตะลึง เผยหนังสือชีวประวัติอ้าง "คานธี" เป็นไบเซ็กช่วล ทิ้งภรรยาไปอยู่กับชายคนรัก

วันที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2554

 "เดลี่ เมล์"รายงานเมื่อวันที่ 28 มี.ค.ว่า หนังสือชีวประวัติของมหาตมะ
คานธี เขียนโดยโจเซฟ เลวีวัลด์ ชื่อเรื่อง"จิตวิญญาณอันยิ่
งใหญ่:มหาตมะ
คานธี และการต่อสู้เพื่ออินเดีย"ได้ระบุเนื้อหาส่วนหนึ่ง อ้างว่า มหาตมะ
คานธี มีพฤติกรรมเป็นไบเซ็กช่วล
และได้ทิ้งภรรยาไปอยู่กับนักเพาะกล้ามชาวยิวชื่อเฮอร์มาน คัลเลนบัค
ซึ่งถือกำเนิดในเยอรมัน แต่อพยพไปอยุ่แอฟริกาใต้
และกลายเป็นสถาปนิกที่ร่ำรวย

หนังสือชีวประวัติดังกล่าวระบุว่า
คานธีได้ทำงานที่แอฟริกาใต้และได้สนิทสนมกับนายคัลเลนบัค
และทั้งสองได้อยู่ร่วมกันเป็นเวลา 2 ปี ในบ้านที่ฝ่ายหลังสร้างขึ้น
และได้คำมั่นสัญญาแก่กันว่า พวกเขาจะรักกันมากขึ้น
และหวังว่าโลกจะไม่ล่วงรู้ความสัมพันธ์ของพวกเขา และว่า ในวัย 13 ปี
คานธีได้แต่งงานกับหญิงอินเดียนามคาสเตอร์ไบ มาคานจิ วัย 14 ปี
และมีลูกด้วยกัน 4 คน ก่อนจะแยกทางกัน

หนังสือชีวประวัติเล่มนี้ยังระบุว่า
คานธีได้เรียกชื่อตัวเองว่า"สภาสูง"และเรียกนายคัลเลนบัคว่า"สภาล่าง"และได้สัญญากับคนรักชายของเขาว่า
เขาจะไม่มองผู้หญิงอื่นในเชิงกามารมณ์ และเขากล่าวว่า เขาคิดว่า
การมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายและหญิงเป็นเรื่องน่าเกลียด อย่างไรก็ตามในปี
1914 คานธีและคัลเลนบัคก็ต้องแยกทางกัน
เมื่อคานธีกลับไปยังอินเดียบ้านเกิด
โดยเพื่อนชายของเขาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าอินเดียเพราะอยู่ในช่วงสงครามโลกครั้งที่สอง
และทำให้ทั้งสองต้องติดต่อกันผ่านจดหมาย

นอกจากนี้ คานธียังเขียนจดหมายบอกเล่าความปรารถนาที่ไม่สิ้นสุดของตัวเอง
และขนานนามอดีตภรรยาของเขาว่าเป็นหญิงที่ร้ายที่สุดเท่าที่เขาเคยพบมา
ไม่เพียงเท่านั้น ชีวประวัตินี้ระบุด้วยว่า แม้แต่ในช่วงวัย 70 ปี แล้ว
คานธีได้หลับนอนกับเหลนวัย 17 ปี และผู้หญิงอื่น
แต่เขาพยายามระงับความตื่นเต้นทางอารมณ์ และครั้งหนึ่งเขาเคยพูดว่า
อวัยวะเพศของเขาเสื่อมสมรรถภาพ ซึ่งมันเป็นสิ่งที่ทั้งแปลกและน่าอับอาย


http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1301287867&grpid=03&catid=03

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

ความคิดเห็นและข้อเสนอแนะ